
“หงส์แดง” ฟอร์มลับแข้งช่วงปรีซีซั่นยังแย่ไม่ดีขึ้นเลย หลังล่าสุดชวนรองแชมป์ เซเรีย อา นาโปลี ไปลับแข้งที่ประเทศสกอตแลนด์ ก่อนจะพ่ายแบบขาดลอย 0-3 เพิ่มสถิติอุ่นเครื่องไม่ชนะมา 4 เกมติดต่อกันแล้ว ในเกมกระชับมิตรเตรียมความพร้อมก่อนเปิดลีก เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา
สนาม : มาร์รี่ย์ฟิลด์ สเตเดี้ยม, เอดินบะระ (สนามกลาง)
ลิเวอร์พูล กลับมาจากทัวร์แดนสหรัฐฯด้วยสถิติที่ไม่ชนะทีมใด ก่อนเกมนี้จะขึ้นไปเหนือที่ประเทศสกอตแลนด์ เพื่อเล่นเกมอุ่นเครื่องกับ นาโปลี รองแชมป์เซเรีย อา จากอิตาลีสล็อตออนไลน์
เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ทัพหงส์ใช้ 11 คนแรกในเกมล่าสุดที่เสมอกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน 2-2 โดยมีสามประสานแนวรุกเป็น อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ดิว็อค โอริกี้ และจอร์จินโย่ ไวนัลดุม ส่วนทางฝั่งของ “อัซซูร่า” ของ คาร์โล อันเชลอตติ ใช้ อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค และ ดรีส์ เมอร์เท่นส์ เป็นคู่หน้า โดยมี ลอเรนโซ่ อินซินเย่ และซิโมเน่ แวร์ดี้ เดินเกมทางริมเส้น

เกมเปิดฉากมาได้แค่ 4 นาที ดิว็อก โอริกี้ ทักทายให้หงส์แดงก่อนเลยเมื่อซัดด้วยซ้ายกลางประตูบอลหลุดกรอบออกไปแบบได้ลุ้น
ทว่าอีก 6 นาทีถัดมากลายเป็น นาโปลี ได้ลุ้นซัดเข้ากรอบก่อนเลย หลัง ซิโมเน่ แวร์ดี้ตะบันด้วยซ้ายเต็มข้อแต่บอลยังไม่ผ่านมือ ซิมง มิโญเล่ต์
นาที 18 จนแล้วจนรอดลูกทีมของ คล็อปป์ มาพลาดจนได้ หลังทำบอลเสียก่อนเจอลูกสวนกลับเร็วของ “อัซซูร่า” ดรีส์ เมอร์เท่นส์ เปิดไซด์ก้อยไปทางปีกขวาให้ ลอเรนโซ่ อินซินเย่ เลี้ยงตัดเข้ากลางก่อนซัดด้วยขวา บอลพุ่งผ่านมือ มิโญเล่ต์ เข้าไปอย่างสวยงาม นาโปลี ขึ้นนำ ลิเวอร์พูล 1-0

เกมรุกของ “หงส์แดง” ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน และก่อนเข้าครึ่งชั่วโมง นาที 29 นาโปลี มาทิ้งห่างเป็น 2-0 บอลขึ้นทางซ้าย ถึง ลอเรนโซ่ อินซินเย่ คราวนี้ดาวยิงทีมชาติอิตาลีครอสเลียดไปเสาแรก ก่อนที่จะเป็น อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค พุ่งมาล้มตัวยิงด้วยซ้ายส่งบอลเข้าประตูไป
3 ประสานแนวรุกของแชมป์ยุโรป 6 สมัย แทบไม่ได้สร้างความลำบากใจให้เกมรับของนาโปลีเลย แถมโอกาสยิงเข้ากรอบในณ.ตอนนี้ยังเป็นศูนย์ แม้นาที 45 ดิว็อค โอริกี้ จะซัดจากเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม แต่ก็ยังถูกยกธงเป็นล้ำหน้าเสียอีก
จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ตามหลัง นาโปลี 0-2
ครึ่งหลัง นาโปลี มีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นบ้าง ขณะที่ลิเวอร์พูลยังใช้ชุดเดิม นาที 48 ลูกทีมของคล็อปป์ ได้ส่องเข้ากรอบเป็นหนแรก เมื่อแนวรับของอัซซูร่าออกบอลพลาด มาเข้าทาง ฟาบินโญ่ ได้ซัดด้วยขวานอกเส้น 18 หลา บอลพุ่งแรงแต่ยังไปตรงตัว อเล็กซ์ เมเร็ต ที่รับไว้ไม่มีพลาด

นาที 52 แฟนหงส์แดงนั่งเงียบกันกริบ เมื่อทีมต้องมาเสียประตูที่สามแบบเหลือเชื่อ คราวนี้ อินซินเย่ เจาะทางแบ็กขวา อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ อีกหนก่อนเลี้ยงตัดเข้ากลางอัดด้วยขวาไปโดน ซิมง มิโญเล่ต์ ปัดไปชน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ก่อนจะตกหน้า อามิน ยูเนส ที่ยืนโล่งซ้ำเข้าไปไม่เหลือ นาโปลี ทะยานนำห่าง ลิเวอร์พูล 3-0
เกมผ่านไปครบหนึ่งชั่วโมง นาโปลี ส่งสำรองลงมาเล่นบ้าง ขณะที่ “หงส์แดง” ถอดเอาตัวหลักออกแล้วส่ง ไรอัน บริวสเตอร์, แฮร์รี่ วิลสัน และเดยัน ลอฟเรน ลงไปเล่นแทน อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ดิว็อค โอริกี้ และโฌแอล มาติป
การสร้างสรรค์เกมรุกของหงส์แดงยังไม่ดีขึ้น ขณะเดียวกัน เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ทยอยถอดตัวหลักมาเก็บไว้ข้างสนามส่งดาวรุ่งสำรองลงไปเล่นรวมทั้งสองแข้งตัวใหม่อย่าง เซ็ปป์ ฟาน เดน เบิร์ก และฮาร์วี่ย์ เอลเลียต รายล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว

ท้ายเกม ลิเวอร์พูล มีโอกาสได้ลุ้นตีไข่แตก นาที 78 แฮร์รี่ วิลสัน ซัดฟรีคิกนอกกรอบแต่บอลเหินคานไปแบบหมดลุ้น อีกสองนาทีต่อมา อดัม ลัลลาน่า กดด้วยซ้ายนอกกรอบแต่บอลก็ไปติด วลาด ชิริเชส แนวรับนาโปลีออกหลังไป
นาทีสุดท้าย เดอะ ค็อป เกือบได้เฮคราวนี้ แฮร์รี่ วิลสัน ลากเข้ากลางประตูก่อนตะบันด้วยซ้ายข้างถนัดบอลพุ่งจะเสียบมุมอยู่แล้ว แต่นายด่านนาโปลียังโชว์ซูเปอร์เซฟปัดออกหลังไปได้
จบเกม นาโปลี งัดฟอร์มสุดเฉียบเอาชนะ ลิเวอร์พูล ขาดลอย 3-0 ส่งผลให้ “หงส์แดง” ลับแข้งไม่ชนะเป็นเกมที่ 4 ติดต่อกันแล้ว
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป “หงส์แดง” จะลงลับแข้งเกมสุดท้ายในคืนวันพุธที่ 31 กรกฎาคมนี้ ในเกมอุ่นเครื่องพบกับ โอลิมปิก ลียง ที่กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ก่อนจะลงเล่นเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ พบกับแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคมนี้

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (โจ โกเมซ น.73), โฌแอล มาติป (เดยัน ลอฟเรน น.62), เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ (เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก น.79), แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (คี ยานา-ฮูเฟอร์ น.74) – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (อดัม ลัลลาน่า น.62), ฟาบินโญ่ (บ็อบบี้ ดันแคน น.79), เจมส์ มิลเนอร์ (ฮาร์วี่ย์ เอลเลตต์ น.79) – อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (แฮร์รี่ วิลสัน น.62), ดิว็อค โอริกี้ (ไรอัน บริวสเตอร์ น.62), จอร์จินโย่ ไวนัลดุม (อดัม ลูอิส น.79)
เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์
นาโปลี (4-4-2) : อเล็กซ์ เมเร็ต – โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ (เอลเซอิด ฮีซาย น.61), คอสตาส มาโนลาส (วลาด ชิริเชส น.46), นิโคล่า มักซิโมวิช (เซบาสเตียน ลูแปร์โต้ น.61), มาริโอ รุย (ฟาอูซี่ กูลาม น.46) – ซิโมเน่ แวร์ดี้ (จานลูก้า แกตาโน่ น.61), โฆเซ่ กาเยฆ่อน, ปิโอเตอร์ เซลินสกี้, ลอเรนโซ่ อินซินเย่ – อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค (เกนนาโร่ ตูติโน่ น.74), ดรีส์ เมอร์เท่นส์ (อามิน ยูเนส น.46)
เทรนเนอร์ : คาร์โล อันเชลอตติ